ทราบกันรึเปล่าคะว่าชื่อแบรนด์ LORAC นี้จริง ๆ แล้วเป็นชื่อของผู้ก่อตั้งชื่อ Carol ที่สะกดตัวหนังสือย้อนหลังค่ะ แล้วก็อ่านว่า ลา-ร็อค (ไม่ใช่ ลอ-แร็ค) เราอยากให้ SA ทุกคนรู้จังว่าต้องออกเสียงยังไง เพราะบางครั้งเราเดินเข้าไปในร้านแล้วถามหาเครื่องสำอางของแบรนด์ บางคนจะมองหน้าเรางง ๆ ไม่เข้าใจว่าเราพูดแบรนด์อะไร ;D วันนี้เรามีของชิ้นใหม่ล่าสุดจากตระกูล Unzipped มาแชร์ให้ฟังค่ะ เป็นพาเล็ทชื่อ Unzipped Cheek Palette ที่เต็มไปด้วยสีปัดแก้มสวย ๆ ทั้งนั้นเลย
The set

เซ็ท Unzipped Cheek Palette & Alter Ego Lipstick นี้ตอนนี้มีขายที่ Ulta เท่านั้นค่ะ เซ็ทมีพาเล็ทสีปัดแก้ม 4 สี และก็มีลิปสติกสีนู้ดขนาดเต็มมาให้อีก 1 แท่ง ตัวพาเล็ทเป็น limited-edition แต่ว่าลิปสติกมีขายถาวรทั่วไปสามารถซื้อแยกได้ ราคาของเซ็ทอยู่ที่ US$30 ซึ่งเราว่าเป็นดีลที่ดีมากเพราะคุณภาพของสีบลัชดีมาก แถมได้ในปริมาณที่เยอะด้วย และแต่ละสีก็น่าจะเข้ากันได้ดีกับหลาย ๆ สีผิว
The Unzipped Cheek Palette


พาเล็ทจะเป็นเนื้อออกมุก ๆ หน่อย ทำมาจากกระดาษอัดแข็งแต่ว่าก็ทนทานดี พาเล็ทบาง ฝาปิดด้วยแม่เหล็ก น้ำหนักเบา พกพาง่าย ข้างในมีกระจกมาให้ เปิดฝาขึ้นแล้วจะเห็นแผ่นพลาสติกใสคลุมสีบลัชไว้อยู่ แผ่นนี้มีโลโก้ของแบรนด์พิมพ์ไว้ด้านบน ส่วนชื่อสีบลัชจะพิมพ์ไว้บนตัวพาเล็ทเลย
อย่างที่บอก ในพาเล็ทมีทั้งหมด 4 สี (ทุกสีไม่มีกลิ่น) มีตั้งแต่สีชมพูอ่อนไปจนถึงชมพูเข้มไปจนถึงน้ำตาลทอง ส่วนเนื้อก็มีให้เลือก 2 แบบคือแม็ท (x2) และชิมเมอร์ (x2) แต่ละสีสามารถมิกซ์แอนด์แม็ทช์ได้ตามสะดวก จะผสมสีไหนมากสีไหนน้อยก็เต็มที่เลย create สีใหม่ได้ตามต้องการ แถมยังสามารถมิกซ์ผสมเนื้อสีได้ด้วย แม็ทเยอะ ชิมเมอร์น้อยหรืออื่น ๆ เพื่อให้ได้เอ็ฟเฟ็กต์บนแก้มแตกต่างออกไป

เราประทับใจกับคุณภาพสีมาก ผงมันละเอียดมาก เกลี่ยก็ง่าย แถมแต่ละสีก็สีเข้มชัดเจน สีอาจจะดูแรงน่ากลัวเล็กน้อยแต่ว่าสามารถทาให้ออกมาบาง ๆ บนผิวได้ง่ายตราบใดที่ใช้แปรงขนฟู ๆ หลวม ๆ (เช่นแปรง stippling brush) และมือเบา ๆ ตอนทา
ถาดสีแต่ละสีไม่ใหญ่ไม่เล็กเกินไป สามารถจุ่มแปรงปัดแก้มปกติทั่วไปลงไปได้โดยที่ไม่ไปแตะสีข้าง ๆ แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าเนื้อมันนุ่มมาก ทำให้สีมันร่อนออกเป็นผงได้ง่ายตอนแตะแปรงลงไป จากประสบการณ์การใช้ของเรา จะเห็นผงสีตกลงไปในถาดข้าง ๆ เป็นประจำตอนใช้ หลังใช้เสร็จเราจะพยายามคว่ำพาเล็ทลงแล้วเคาะ ๆ สีออกเพื่อป้องกันไม่ให้สีมันผสมกัน


- Underrated – medium rosy pink; matte
สีนี้เป็นสีกลาง ๆ ที่เราคิดว่าน่าจะทาแล้วสวยบนหลายสีผิว ความเข้มสีดี ทาแล้วเห็นชัดเจนบนผิวสีเข้มปานกลางของเรา เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย แอบออก powdery นิด ๆ แต่ว่าตอนทาลงไปบนผิวจริง ๆ แล้วเกลี่ยออกเนื้อมันก็กลืนไปกับผิวสวยดี ไม่รู้สึก chalky แต่อย่างใด - Unashamed – bright, blue-base pink; matte
สีนี้สว่างมาก แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ! เพราะว่ามันสามารถทาให้บาง ๆ แล้วออกมาสวยได้ จะได้สีชมพูหวาน ๆ ใส ๆ บนแก้มที่ทำให้หน้าดูอ่อนเยาว์ เราชอบสีนี้มาก สีนี้นี่แค่แตะ ๆ ปลายแปรงลงไปเบา ๆ ก็ได้เม็ดสีขึ้นมาเยอะมากแล้วค่ะ ดีอย่างที่สีมันเกลี่ยออกให้บาง ๆ ดูซอฟท์ ๆ ได้ง่าย - Unapologetic – medium golden bronze; shimmery
สีนี้อาจจะใช้เป็นสีบรอนเซอร์ได้อยู่แต่เราคิดว่าปริมาณชิมเมอร์มันเยอะและสีมันก็ออกทอง ๆ ด้วย อาจจะดูไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่ เราจะชอบใช้มันเป็นสีปัดแก้มมากกว่า เราคิดว่าสีทองของมันเข้ากับผิวสีเหลืองเราได้กำลังดีเลย สีเห็นชัดเจนดีบนผิว สีนี้เหมือนกันกับสี Unashamed คือแค่แตะ ๆ ปลายแปรงลงไปก็ได้สีขึ้นมาเยอะแล้ว แต่ถึงแม้ว่ามันจะมีชิมเมอร์เยอะแต่ว่าพอทาลงไปบนผิวแล้วก็ยังเกลี่ยให้ดูบาง ๆ เป็นธรรมชาติได้ง่ายค่ะ - Unimaginable – pale peachy pink; shimmery
ตอนแรกเราคิดว่าสีนี้ทาแล้วมันต้องไม่เห็นบนแก้มเราแน่นอน แต่ว่าผิดค่ะ เพราะแค่แตะแปรงลงไปในถาดแล้วหมุน ๆ เล็กน้อยก็ได้สีขึ้นมาทาเห็นชัดบนแก้มแล้ว สีนี้บนแก้มเราจะออกประมาณชมพูอมพีชเบา ๆ เนื้อชิมเมอร์ของมันจะทำให้หน้าดูมีความโกลว์เบา ๆ ดูสดใสดี ไม่ใช่เงาวับอย่างกับมีกลิตเตอร์ สีนี้เป็นสีที่ทาง่ายที่สุดสำหรับเราค่ะ และก็เป็นสีที่เราใช้บ่อยสุด
เรื่องความติดทนนั้นถือว่าดีเยี่ยมค่ะ เราทาแล้วสีก็ติดทนดีทั้งวัน ไม่เห็นว่าจะจางอะไร ถึงแม้ว่าจะทาไปเบา ๆ ก็ตาม ตอนแรกนึกว่าสี Unimaginable จะจางเร็วแต่ว่ามันก็กลับติดทนเหมือนกับอีก 3 สีในพาเล็ท
Full face comparison

Alter Ego Lipstick in Girl Next Door


Girl Next Door เป็นลิปสติกสีชมพูอมพีชเนื้อครีมที่ทาไปครั้งเดียวก็ได้ระดับการปกปิดแบบเต็มทึบเลย มีเนื้อเป็นเนื้อแม็ทแบนสนิท ไม่มีความเงาใด ๆ ทั้งสิ้น เราไม่ค่อยชอบสีลิปสติกเท่าไหร่ เราคิดว่าสีอ่อนพาสเท็ลของมันนั้นมันตัดกับสีผิวเรามากไปค่ะ ไม่ว่าจะทาเบาทาบางแค่ไหนก็ตาม สีมันดูในแท่งก็สวยดีอยู่แต่พอทาบนปากแล้วมันไม่รอดค่ะ (อย่างน้อยก็บนปากเรา) เวลาทาสีนี้เราจะต้องทาลิปกลอสทับด้วยเสมอเพื่อให้สีมันดูมีชีวิตชีวาและมีมิติขึ้น
ส่วนเรื่องเนื้อของมันนั้น หนาและก็ดูหนักค่ะ แต่ว่าพอทาลงไปบนปากจริง ๆ แล้วจะไม่รู้สึกอะไรเลย ก็เบาเหมือนลิปสติกธรรมดาทั่วไป เนื้อจะแห้งหน่อย ทาไปแล้วจะดึงเล็กน้อย และยังไปเน้นริ้วรอยและรอยแห้งบนปากให้เห็นชัดขึ้น ทาให้สีเนียนออกมาเสมอกันยากเหมือนกัน ต้องใช้แปรงลิปสติกเข้าช่วยเกลี่ย ความติดทนอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงซึ่งก็ถือว่าโอเค

ถ้าให้ลิปสติกสีอื่นมานี่เราคิดว่าเซ็ทนี้จะดีเยี่ยมไปเลยค่ะ ถึงแม้ว่าจะทาตาเข้ม smokey จัดเต็มแค่ไหนก็ตาม เราก็ยังคิดว่าสี Girl Next Door นี้ก็ยังคงเป็นสีที่ทาให้ออกมาสวยยากอยู่ดี ไม่ว่าคุณจะมีสีผิวแบบไหนก็ตาม ส่วนพาเล็ทสีบลัชนั้น เราถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องมีเลยค่ะ เราชอบมาก ๆ แล้วก็นึกหาเหตุผลที่จะไม่แนะนำให้ซื้อไม่ได้เลย จะดียิ่งขึ้นไปอีกหากคุณได้ซื้อตอนที่มัน on sale หรือไม่ก็ใช้คูปองช่วยลด (ซึ่ง Ulta มีบ่อยมาก) เราว่าแค่ตัวพาเล็ทอย่างเดียวก็คุ้มมากกับราคาแล้วค่ะ :)